เพื่อใช้เป็น "มันสมอง" ของยานไร้คนขับรุ่นใหม่
ต่อจากยาน GUTS ฟอลคอน เพื่อเอาไปใช้พัฒนาบุกเบิกอวกาศ
แต่จากการบุกจู่โจมของสเฟียร์
จึงทำให้มันถูกนำมาใช้เป็น AI ควบคุมยานรบรุ่นใหม่ล่าสุดแทน
ปกติมันจะอยู่ที่ห้องบัญชาการบนยานเนิร์สเดซเซย์
และสามารถส่งเสียงพูดคุยกับสมาชิกทุกคนในทีมได้
แล้วในเวลาที่ คานาตะ ขับยาน GUTS ฟอลคอน ออกไปปฏิบัติภารกิจ
มันก็จะทำหน้าที่เป็นคู่หูให้กับเขาในนามของ "โซระ ( เวหา )"
ยานรบไร้คนขับรุ่นใหม่ของหน่วย GUTS - SELECT ที่ HANE2 ควบคุม
จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรนั้นต้องรอติดตามดูกันต่อไป
( ผู้พากษ์เสียง : สึจิดะ ฮิโรชิ )
ชาวดาวบัซโด้ อกัมส์ : ร่างที่แท้จริงซึ่งเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นของ อาซาคาเงะ ยูอิจิโร่
ที่สังกัดอยู่ในฝ่ายเทคโนโลยีของ TPU
ซึ่งเคยทุ่มเทให้กับการพัฒนากำลังรบใหม่ให้กับ ทีม GUTS - SELECT
เขาได้เข้าไปควบคุม "เทราเฟเซอร์ ปีศาจสมองกล" ซึ่งเป็นอาวุธหุ่นยนต์
ที่เขาคิดค้นพัฒนาขึ้นมาเอง แล้วหันมาเล่นงาน คานาตะ หรือก็คือ อุลตร้าแมนเดคเกอร์
โดยเขาจะเสียบ การ์ดเทราเฟเซอร์ เข้าไปในอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า "เฟสไรเซอร์"
เพื่อเรียก เทราเฟเซอร์ ออกมา แล้วถ่ายโอนร่างของตนเข้าไปในตัวมัน
เพื่อเชื่อมต่อพลังชีวิตเข้าด้วยกัน
จากนั้นจึงใช้พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึง
เข้าจู่โจม อุลตร้าแมนเดคเกอร์ และ ทีม GUTS - SELECT
ความหมายของคำพูดแปลกๆที่เขาพูดพึมพำออกมาว่า
"ดอกไม้...ต้นไม้...ท้องฟ้า...สายลม...ก้อนเมฆ...พระอาทิตย์...สายรุ้ง...
ทะเล...ชายหาด...ป่าไม้...ก้อนหิน...เม็ดทราย...ผืนดิน..."
กับเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกขุ่นข้องหมองใจคืออะไรกันแน่...?
อาสึมิ เดคเกอร์ : ชาวโลกผู้ครอบครองแสงสว่างที่สามารถช่วยให้เขาแปลงกายเป็น อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ได้
ในโลกอวกาศยุคอนาคต ซึ่งเป็นลูกหลานของ คานาตะ
เขาคือเจ้าของ อุลตร้า D แฟลชเชอร์ ตัวจริงที่เคยใช้มันมาก่อน
ซึ่ง อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ที่เขาเป็นผู้แปลงร่างนั้น
จะมีสไตล์การต่อสู้ที่ช่ำชองกว่าตอนที่ คานาตะ เป็นผู้แปลงร่างมาก
เพื่อที่จะยับยั้งการล้างแค้นของ ชาวดาวบัซโด้ อกัมส์
ซึ่งก็คือร่างจริงของด็อกเตอร์ อาซาคาเงะ
เขาจึงได้เสี่ยงชีวิตเดินทางจากอนาคตมายังยุคสมัยนี้
โดยในตอนที่ อกัมส์ เดินทางมาที่โลกยุคนี้
เขาได้ทำลายระบบเดินทางข้ามมิติที่ตนเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา
และในตอนที่ คานาตะ แปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ครั้งแรก ขณะถูกสเฟียร์บุกโจมตี
เขาก็สามารถใช้ระบบเดินทางข้ามมิติที่กำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม
ส่ง อุลตร้า D แฟลชเชอร์ มายังโลกยุคอดีต เพื่อฝากแสงสว่างเอาไว้กับ คานาตะ
และถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะสามารถส่งตัวเองมาที่โลกยุคอดีตได้สำเร็จ
แต่ระบบเดินทางข้ามมิติยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี เขาจึงไม่สามารถที่จะอยู่บนโลกนี้ได้นานนัก
และจะสูญเสียพละกำลังไปเป็นอย่างมาก
ขณะที่เขากำลังจะกลับไปที่โลกอนาคต เขาได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ช่วย อกัมส์ ทีนะ"
คำพูดนี้มีนัยยะอะไรกันแน่ ?
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏในซีรีส์ Ultraman Decker
ตอนที่ 1 "วันแห่งการบุกมาเยือน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรรวมร่างสุดแกร่ง SPHERE SAURAS
ความสูง : 68 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อสูรรวมร่างสุดแกร่ง ที่มีเอกลักษณ์อยู่ตรงเท้าหน้าซึ่งมีลักษณะคล้ายกับผลึกคริสตัลขนาดใหญ่
มันสามารถปล่อยคลื่นอัดกระแทกที่สร้างความรบกวนคลื่นไฟฟ้า
จนทำให้ ยาน GUTS ฟอลคอนแบบไร้คนขับ และ ยานเนิร์สเดซเซย์ ไม่สามารถจู่โจมได้
แถมมันยังพยายามจะดูดกลืนพลังงานจากพื้นดินอีกด้วย
ตอนที่ 2 "การตัดสินใจของคานาตะ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ด MICLAS
ความสูง : ไมโคร ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 0 ~ 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ดที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแสงสว่าง
โดยการนำ การ์ดมิคลาส มาอ่านกับ อุลตร้า D แฟลชเชอร์
ซึ่งถนัดในการใช้พละกำลังอันมหาศาลผลักคู่ต่อสู้ให้ล้ม หรือ พุ่งเข้าชาร์จ ฯลฯ
เมื่อมันทำหน้าที่เป็นตัวสำรองเสร็จแล้ว
มันก็จะหายไปกลายเป็นอณุภาคดิจิตอล
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : มังกรจอมอาละวาดทำลายล้าง DEATHDRAGO
ความสูง : 66 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดสายพันธุ์เดียวกันกับ มังกรจอมอาละวาดทำลายล้าง
ซึ่งมีฉายาว่า "สัตว์ประหลาดตนแรก"
เพราะมันเป็นสัตว์ประหลาดที่ออกมาปรากฏตัวสู่สายตาของชาวโลกเป็นตัวแรก
และเป็นจุดริเริ่มในการก่อตั้งองค์กร TPU ขึ้นมา
มันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าอันรุนแรง
ออกมาจากเขาขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้าง ที่อยู่บนหัวแบบมั่วซั่ว
ซึ่งการจะหยุดยั้งมันไม่ให้ยิงกระแสไฟฟ้าแบบมั่วๆออกมาได้ดีที่สุด
ก็คือการหักเขาของมันนั่นเอง
ตอนที่ 3 "GUTS - SELECT ออกปฏิบัติการ !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ GOMORA
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ที่มีท่อนหางอันทรงพลัง
และ สุดยอดคลื่นสั่นสะเทือน ที่ปล่อยออกมาจากเขาเป็นอาวุธ
สุดยอดคลื่นสั่นสะเทือนของมันนั้นนับเป็นท่าที่ร้ายกาจ
ซึ่งนำเอาความสามารถในการสร้างแรงสั่นสะเทือนตรงเขา
เพื่อขุดเจาะชั้นหิน และเคลื่อนไหวอยู่ในดิน มาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้
ดังนั้นจึงไม่ควรจะโจมตีมันซึ่งๆหน้า แต่ต้องอ้อมไปด้านหลัง แล้วโจมตีไปที่หางของมัน
ถึงจะเป็นวิธีการรับมือกับ โกโมล่า ที่ได้ผลดี
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรรวมร่างดึกดำบรรพ์ SPHERE GOMORA
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ฝูง สเฟียร์โซลเยอร์ ที่ปรากฏตัวต่อหน้า โกโมล่า ได้เข้าไปเกาะกุมร่างของมัน
แล้วเปลี่ยนข้อมูลทางพันธุกรรมของมันเสียใหม่ จนกลายเป็น อสูรรวมร่างสเฟียร์
นอกจากมันจะสามารถปล่อย คลื่นอัดกระแทกสเฟียร์ ที่ส่งผลรบกวนคลื่นไฟฟ้าได้แล้ว
มันยังสามารถใช้ สุดยอดคลื่นสั่นสะเทือนสเฟียร์ ที่มีอานุภาพร้ายกาจกว่า โกโมล่า
ซึ่งเป็นเจ้าของร่าง ในการโจมตีได้อีกด้วย
ตอนที่ 4 "อสูรจอมทำลายล้างตื่นจากนิทรา"สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : ชาวดาวทมิฬ ALIEN SHAPLAY
ตวามสูง : 1.7 เมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่ปรากฏในภาพจำลองการสู้รบในเมือง
ซึ่งใช้แว่น VR สำหรับการซ้อมรบของเจ้าหน้าที่หน่วย GUTS - SELECT
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดอวกาศ BEMLAR
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ปรากฏในภาพจำลองการสู้รบในเมือง
ซึ่งใช้แว่น VR สำหรับการซ้อมรบของเจ้าหน้าที่หน่วย GUTS - SELECT
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรจอมทำลายล้าง MONS - AHGAR
ความสูง : 65 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อสูรทำลายล้างที่ปรากฏตัวออกมาจากแคปซูลเหล็ก
ซึ่งถูกพบที่ไซต์งานก่อสร้างขุดเจาะ
มันมีผิวหนังที่แข็งแกร่งทนทาน และสามารถพ่นไฟออกมาจากปากได้
ตรงส่วนหัวของมันจะมีจุดศูนย์รวมประสาทอยู่ ซึ่งนั่นคือจุดอ่อนของมัน
แต่มันจะมีพิดานเกราะแข็งๆปกคลุมอยู่ จึงไม่สามารถที่จะโจมตีได้ง่ายๆ
ตอนที่ 5 "จอมตะกละในทะเลสาป"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อมนุษย์แปลงโฉม ALIEN PITT ( YUKO )
ความสูง : 1.55 เมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่เดินทางท่องอวกาศเพียงลำพัง
ซึ่งได้พาตัวอ่อนของ เอเลคิง ที่มีชื่อว่า "เอลี่" มาด้วย
เนื่องจากยานอวกาศของเธอเกิดความเสียหาย
เธอจึงได้ลงจอดฉุกเฉินที่โลกมาตั้งแต่ 1 ปีก่อน
และเธอเองก็ไม่มีหนทางที่จะเดินทางออกจากโลกด้วยตัวคนเดียวได้
เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกในร่างของมนุษย์ที่ชื่อว่า "ยูโกะ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดอวกาศ ELEKING ( ELLY)
ความสูง : 53 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอวกาศที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลสาป
แล้วคอยดูดกลืนกระแสไฟฟ้าจากสายส่งไฟฟ้าของสถานีไฟฟ้าย่อยที่อยู่ริมทะเลสาป
เดิมทีมันเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่มีชื่อว่า "เอลี่"
ซึ่ง ชาวดาวพิทท์ ( ยูโกะ ) ที่เดินทางท่องอวกาศเพียงลำพังโดยไม่มีประสงค์ร้าย
ได้พามันมาเป็นเพื่อนร่วมทางด้วย
แต่พอมาอยู่บนโลก มันก็เกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ตอนประมวลเหตุการณ์พิเศษ "การกลับมาของมาลูลุ"
ตัวละครที่ปรากฏ : มนุษย์ดาวเมทรอน MARLURU
ความสูง : 160 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวเมทรอนพเนจรที่เดินทางมายังโลกภายหลังจากที่ TPU ก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน
เธอเคยเป็น มาสคอต ของทีม GUTS - SELECT รุ่นแรก
ซึ่งมีความรู้เรื่องสัตว์ประหลาดเป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกของเธอจะดูน่ารัก แต่เธอก็เป็นคนปากจัดเอาเรื่อง
ปัจจุบันเธอสังกัดอยู่ในฝ่ายเทคนิคของ TPU ซึ่งทำหน้าที่คอยพัฒนาวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆ
ตอนที่ 6 "สัตว์ประหลาดใต้พิภพ โผล่มาตนแล้ว ! ตนเล่า !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ด AGIRA
ความสูง : ไมโคร ~ 45 เมตร
น้ำหนัก : 0 ~ 1 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ดที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแสงสว่าง
โดยการนำ การ์ดอากิระ มาอ่านกับ อุลตร้า D แฟลชเชอร์
ซึ่งถนัดในการหลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไว
แล้วรวบรวมพลังงานเอาไว้ตรงเขาเพื่อพุ่งเข้าชน
เมื่อมันทำหน้าที่เป็นตัวสำรองเสร็จแล้ว
มันก็จะหายไปกลายเป็นอณุภาคดิจิตอล
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ PAGOS
ความสูง : 30 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพที่สามารถพ่นลำแสงทำลายโมเลกุลออกมาจากปากได้
มันเห็นว่าการที่พวกมนุษย์ไปขุดหา "โลหะวิกฤติยิ่งยวด" ที่อยู่ในดินลึก
เป็นการรุกล้ำอาณาเขตของมัน จึงได้ปรากฏตัวออกมา
ว่ากันว่าปรากฏการณ์แสงปริศนาที่เรียกว่า "สายรุ้งสีทอง" นั้น
คือลางบอกเหตุว่า ปากอส กำลังจะปรากฏตัวออกมา
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ GUDON
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพตนที่ 2 ที่ปรากฏตัวต่อจาก ปากอส
โดยใช้แส้ที่แขนทั้งสองข้างมัดขาของ อุลตร้าแมนเดคเกอร์ จากด้านล่าง
เพื่อลาก อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ลงไปยังใต้ดิน พร้อมกับ ปากอส
มันคือศัตรูตามธรรมชาติของ สัตว์ประหลาดใต้พิภพ ทวินเทลล์
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ TERRESDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 1 แสน 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพตนที่ 3 ที่บุกโจมตี อุลตร้าแมนเดคเกอร์ หลังจากที่ถูกลากลงมายังใต้ดิน
มันมีผิวหนังแข็งๆปกคลุมอยู่ทั่วร่าง จึงมีพลังในการป้องกันตัวสูง
แถมยังสามารถพ่น ลำแสงแม็กม่า ออกมาจากปากได้อีกด้วย
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดใต้พิภพ TWINTAIL
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ซึ่งมีเอกลักษณ์อยู่ตรงหางขนาดใหญ่ทั้ง 2 เส้น ที่ดูคล้ายกับแส้
มันคือศัตรูตามธรรมชาติของ สัตว์ประหลาดใต้พิภพ กุด้อน
มันจะใช้หางทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อของมันในการขุดเจาะดินหรือใช้รัดคู่ต่อสู้
พวกมันจะอยู่ในรังใต้ดินกันเป็นจำนวนมาก
ตอนที่ 7 "แสงแห่งความหวัง จากดาวเคราะห์สีแดง"
ตอนที่ 8 "การเผชิญหน้าอีกครั้งระหว่าง แสงสว่าง กับ ความมืด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : เทพแห่งความชั่วร้าย SPHERE MEGAROZOA ( ร่างที่ 2 )
ความสูง : 66 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 9 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : เมกาโลซอร์ เทพแห่งความชั่วร้าย ซึ่งเคยใช้ความมืดเข้าปกคลุมโลก
แล้วถูก อุลตร้าแมนทริกเกอร์ กับ ทีม GUTS - SELECT รุ่นแรก กำจัดลงไป
ได้อาศัยพลังของ สเฟียร์ ในการถือกำเนิดขึ้นมาใหม่
มันมีพลังงานแห่งความมืดอันมหาศาลซ่อนเร้นอยู่
และจะใช้ กระสุนแสงแห่งความมืด กับ คลื่นสั่นสะเทือน
และ สายระยางค์นับไม่ถ้วน เข้าโจมตี
ตัวละครที่ปรากฏ : นักรบพราวเสน่ห์ CARMEARRA
ความสูง : 49 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 9 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ผู้นำกลุ่มมนุษย์ยักษ์แห่งความมืดที่เคยปกครองโลกด้วยพลังแห่งความมืด
ในยุคอารยธรรมโบราณ
และได้เปิดฉากต่อสู้กับ อุลตร้าแมนทริกเกอร์ อย่างดุเดือด เมื่อ 10 ปีก่อน
เธออยู่ภายในร่างของ สเฟียร์เมกาโลซอร์
แต่ท้ายที่สุดเธอก็ได้มาร่วมมือต่อสู้ไปพร้อมกับ อุลตร้าแมนเดคเกอร์
และ อุลตร้าแมนทริกเกอร์ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอเอาไว้
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : พืชยุคดึกดำบรรพ์ GIJERAN ( ลูลูอิเอะยักษ์ )
ความสูง : 53 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : พืชยุคดึกดำบรรพ์ที่ฟอสซิลเมล็ดพันธุ์ของมันซึ่ง เมกาโลซอร์ บังเอิญดูดเข้าไปในร่าง
ได้แตกหน่อ และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยอิทธิพลจากสเฟียร์
ละอองเกสรของมันที่มีส่วนผสมของสารแห่งความสุขจะมีฤทธิ์ในการทำให้ง่วงเหงาหาวนอน
ใครที่สูดดมเกสรนี้เข้าไปก็จะเข้าสู่ภวังค์และตกเป็นทาสของมัน
การโจมตีในเวลากลางคืนที่มันจะไม่ปล่อยละอองเกสรออกมาจะทำให้มันอ่อนกำลังลง
ตอนที่ 9 "ภาพที่กล้าหาญเพื่อใครบางคน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ด WINDOM
ความสูง : ไมโคร ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 0 ~ 2 หมื่น 3 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดิเมนชั่นการ์ดที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแสงสว่าง
โดยการนำ การ์ดวินด้อม มาอ่านกับ อุลตร้า D แฟลชเชอร์
ซึ่งถนัดในการโจมตีอย่างแม่นยำโดยมุ่งเน้นไปที่จุดๆเดียว
เมื่อมันทำหน้าที่เป็นตัวสำรองเสร็จแล้ว
มันก็จะหายไปกลายเป็นอณุภาคดิจิตอล
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : นักรบอวกาศ GREGORE GRACE
ความสูง : 180 เซนติเมตร ~ 55 เมตร
น้ำหนัก : 74 กิโลกรัม ~ 4 หมื่น 7 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อดีตนักสู้ที่พอจะมีชื่อเสียงในอวกาศอยู่บ้างในฉายาว่า "ปีศาจเหล็ก"
แต่เนื่องจากเขาต่อสู้อย่างหักโหมมานานหลายปี จึงทำให้ร่างกายทรุดโทรม
การต่อสู้บนเวทีพิเศษที่ใช้ดาบทั้ง 4 เล่ม ตั้งเป็นเสาเวที คือ สไตล์การต่อสู้ของเขา
เขามักจะไปไหนมาไหนกับ มิกะ ลูกสาวผู้เคารพรักในตัวของคุณพ่อเสมอ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดโครงกระโหลก REDKING
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอันดุร้ายที่ชื่นชอบการต่อสู้เป็นอย่างยิ่ง
มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งทนทาน และมีความภาคภูมิใจในกำลังแขนอันทรงพลังของมัน
สติปัญญาของมันจัดว่าไม่สูงมากนัก
มันจะถนัดในการโจมตีด้วยการโยนก้อนหิน และใช้ลำตัวพุ่งมากระแทก
จุดอ่อนของมันอยู่ที่การเล็งโจมตีไปที่ต้นคอ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรรวมร่างโครงกระโหลก SPHERE REDKING
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : พวก สเฟียร์โซลเยอร์ ที่ปรากฎตัวต่อหน้า เรดคิง ได้พุ่งเข้าไปเกาะกุมตัวของมัน
แล้วรวมร่างจนกลายเป็นสภาพนี้
เมื่อตรงบริเวณที่ สเฟียร์ ไปรวมร่างเกิดการเรืองแสง
พลังของมันก็จะเพิ่มขึ้น และสามารถปล่อยพลังคลื่นออกมาได้
อีกทั้งยังสามารถสร้างบาเรียเพื่อป้องกันการโจมตีได้อีกด้วย
ตอนที่ 10 "คน กับ สัตว์ประหลาด"สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : อสูรแห่งผืนสมุทร KING GUESRA
ความสูง : 68 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดในมหาสมุทรที่ถนัดในการใช้พละกำลังอันมหาศาลและการพุ่งเข้าชนโจมตี
ครีบและหนามทั่วตัวของมันจะมีพิษร้ายแรง
โดยเฉพาะครีบที่อยู่ด้านหลังศีรษะของมันจะมีพิษสั่งสมอยู่เป็นจำนวนมาก
แต่ในทางกลับกัน เมื่อมันสูญเสียครีบที่อยู่ด้านหลังศีรษะไป มันก็จะอ่อนกำลังลง
มันได้มาปะทะกับ นีโอเมกัส แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับพลังอันเหนือชั้นของมัน
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดสร้างใหม่ NEOMEGAS
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีพลังอันท่วมท้นซึ่งโผล่ออกมาจากใต้ดิน
นอกจากการโจมตีด้วยกงเล็บอันแหลมคมที่มือทั้งสองข้างแล้ว
มันยังสามารถพ่นลำแสงความร้อนออกมาจากปาก
โดยให้คริสตัลที่อยู่ตรงอกเปล่งแสงออกมาได้
นีโอเมกัส นั้นถือกำเนิดมาจากเทคโนโลยีโคลนนิ่ง
จึงมีระบบควบคุมถูกฝังอยู่ในสมองของมัน
ตอนที่ 11 "เทพจักรกลออกศึก"
ตัวละครที่ปรากฏ : ปีศาจสมองกล TERRAPHASER
ความสูง : 69 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 9 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อาวุธหุ่นยนต์ต่อต้านสัตว์ประหลาดที่ TPU เป็นผู้พัฒนาขึ้นมา
ซึ่งมีอาวุธหลากหลายชนิดถูกติดตั้งอยู่
ไม่ว่าจะเป็น คลอว์อาร์ม กงเล็บที่สามารถยืดหดได้ที่แขนขวา
กับ ปืนลำแสง TR ที่แขนซ้าย และ TR เมก้าบัสเตอร์ ปืนอณุภาค
ซึ่งเป็นไม้ตายแบบนัดเดียวจอด ที่ติดอยู่ตรงอก
ด็อกเตอร์อาซาคาเงะ เป็นผู้ที่มีบทบาทในขั้นตอนพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้อย่างยิ่งยวด
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดเปลี่ยนร่าง GAZORT
ความสูง : 59 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดเปลี่ยนร่างที่ถือกำเนิดจาก คริตเตอร์
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในชั้นไอโอโนสเฟียร์ จำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน
มันสามารถบินได้ และจะปรากฏตัวออกมาจากพายุหมุนที่เต็มไปด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
อาวุธของมันคือ กระสุนพลาสม่า ที่ยิงออกมาจากปาก
มันได้บุกจู่โจม เทราเฟเซอร์ ที่อยู่ในระหว่างการขนส่ง แต่กลับถูกมันโจมตีตอบโต้กลับ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : วิหคสายฟ้า HINABASSER
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 200 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : วิหคสายฟ้าที่ปรากฏตัวออกมาจากเมฆฝนฟ้าคะนอง และออกเคลื่อนไหวกันเป็นฝูง
มันเป็นนกที่มีนิสัยดุร้าย และเมื่อโตขึ้นมันก็จะกลายเป็น "ไรบาสเซอร์"
แต่ว่ากันว่า ฮินะบาสเซอร์ ที่สามารถอยู่รอดจนเติบโตเต็มวัยได้นั้นมีจำนวนน้อยมาก
พวกมันได้เข้ามาขัดขวางเหล่าสมาชิกทีม GUTS - SELECT ที่กำลังต่อสู้ภาคพื้นดินอยู่
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : วิหคสายฟ้า RAIBASSER
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : วิหคสายฟ้าที่บินลงมาจากเมฆฝนฟ้าคะนอง
มันสามารถกระพือปีกทั้งสองข้างเพื่อสร้างลมกรรโชก
และสามารถปล่อยสายฟ้าออกมาจากบริเวณลำตัวได้
มันได้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงที่กำลังทดสอบการเดินระบบของ เทราเฟเซอร์
แล้วเป็นฝ่ายรุกไล่ เทราเฟเซอร์ ได้ครั้งหนึ่ง
แต่เมื่อมาปะทะกับ เทราเฟเซอร์ ตอนเดินเครื่องอีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้ได้เปลี่ยน HANE2 ให้อยู่ในโหมดอินเตอร์เฟส
มันก็กลับเป็นฝ่ายถูก เทราเฟเซอร์ บุกไล่ต้อนแทน
ตอนที่ 12 "การตอบโต้ของนีโอเมกัส"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรรวมร่างสร้างใหม่ SPHERE NEOMEGAS
ความสูง : 65 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : อสูรรวมร่างสเฟียร์ที่ถือกำเนิดจากเซลล์ของ นีโอเมกัส ซึ่งมีพลังเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
โดยจะเห็นได้จาก ลำแสงความร้อน ที่พ่นออกมาจากปากของมัน
จะมีคลื่นของสเฟียร์ผสมอยู่ เพื่อเพิ่มอานุภาพให้กับลำแสงของมัน
และแขนทั้งสองข้างของมันก็ถูก สเฟียร์โซลเยอร์ แปรสภาพให้กลายเป็นกงเล็บ
นอกจากนี้มันยังสามารถพองตัวให้ใหญ่ขึ้น แล้วงอกรากลงไปในดิน
เพื่อปล่อยพลังงานบางอย่างลงไปในดินผ่านรากนั้น
ตอนที่ 13 "จัมเบิ้ล ร็อค"
ไม่มีสัตว์ประหลาดปรากฏ
ตอนที่ 14 "กำเนิดเทพปีศาจ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดเสียงรบกวน NOISELER
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดเสียงรบกวนที่ใช้ใบหูขนาดใหญ่คอยตรวจจับเสียงดังอึกทึก
แล้วจะบินไปยังพื้นที่ที่มีเสียงดังหนวกหูนั้น เพื่อกลืนกินเสียงเป็นอาหาร
มันสามารถยิงลำแสงออกมาจากดวงตาได้
มันถือเป็นสัตว์ประหลาดอีกตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวออกมา
ภายหลังจากที่ เทราเฟเซอร์ ถูกนำมาใช้ในการรบจริง
และถูก อุลตร้าแมนเดคเกอร์ กับ เทราเฟเซอร์ แท็คทีมกันกำราบลงไป
ตอนที่ 15 "คำมั่นสัญญาสู่วันพรุ่งนี้"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : ปีศาจสมองกล TERRAPHASER
( Profile ของสัตว์ประหลาดตัวนี้จะอยู่ในตอนที่ 11 )
ตอนที่ 16 "จงเป็นตัวของตัวเธอเอง"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : ตัวอ่อนอสูรลอยได้ SPINNIE
ความสูง : 22 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 410 ~ 450 กรัม
ลักษณะพิเศษ : สิ่งมีชีวิตในอวกาศที่ล่องลอยไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีใครทราบถึงระบบนิเวศของมัน
พอจะลองจับมัน มันก็จะพ่นไฟออกมาจากจงอยปากเพื่อเข้าโจมตี
จึงมีการลงความเห็นว่ามันเป็นตัวอันตราย เลยเปลี่ยนจากแผนการจับกุมมาเป็นการกำจัดแทน
ตอนแรกที่ปรากฏตัวออกมา มันได้โผล่มาเพียงหัวเดียว
แต่ตอนที่มันไปปรากฏตัวในพื้นที่ที่มีการค้นพบหินแร่ปริศนา ( หินแร่โกสด์ )
จากรอยแยกในชั้นดิน มันจะมีสองหัว
สรุปว่าตัวตนที่แท้จริงของมันก็คือ ร่างตัวอ่อนของสัตว์ประหลาดสองเศียร แพนด้อน นั่นเอง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดสองเศียร PANDON
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดสองหัวที่จะพ่นเปลวเพลิงออกมาจากปากทั้งสองข้าง
แพนด้อน คือ ร่างของ สปินนี่ ตัวอ่อนอสูรลอยได้ ที่ตกลงไปในรอยแยกของชั้นดิน
แล้วได้รับพลังจากหินแร่ปริศนา ( หินแร่โกสด์ ) จนเกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
คาดว่า ร่างตัวอ่อนของมัน กับ หินแร่ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับมัน
ได้ถูกมนุษย์ต่างดาวที่คอยบงการ แพนด้อน ฝังเอาไว้ในดินเมื่อในอดีต
แล้วเกิดตื่นขึ้นมาจากผลกระทบของแผ่นดินไหวโดยมิได้คาดหมาย
ตอนที่ 17 "การไต่สวนจากอดีต"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : สัตว์ประหลาดยุคดึกดำบรรพ์ GOMESS ( S )
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ที่ปรากฏตัวออกมาจากใต้ดิน
แล้วใช้กงเล็บกับเขี้ยวอันแหลมคมทำลายป้อมปืนใหญ่ตอบโต้ชนิดไร้คนบังคับ
โกเมส ตัวนี้เป็นสายพันธุ์ขนาดใหญ่พิเศษที่มีความสูงถึง 40 เมตร
ซึ่งแตกต่างจากสายพันธุ์เดิมที่มีข้อมูลในอดีตซึ่งมีความสูงเพียง 10 เมตร
จึงถูกจำแนกให้เป็น โกเมส ( S )
( * ( S ) หมายถึง "สายพันธุ์ S" ซึ่งย่อมาจาก "สเปเชี่ยล" )
ตอนประมวลเหตุการณ์พิเศษ 2 "การคุกคามของเทราเฟเซอร์"
ตอนที่ 18 "คำเชื้อเชิญจากต่างมิติ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : ยอดอสูรมดยักษ์ ARIBUNTA
ความสูง : 57 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ยอดอสูรมดยักษ์ที่บุกมาโจมตีโลกจากต่างมิติโดยการทำลายห้วงอวกาศ
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าสัตว์ประหลาดทั่วๆไป และไม่มีใครทราบข้อมูล
เพราะแม้แต่ในฐานข้อมูลของ TPU เองก็ไม่มีบันทึกปรากฏอยู่
มันสามารถยิงเปลวไฟออกมาจากง่ามกรรไกรที่มือ
และพ่นกรดฟอร์มิกออกมาจากปาก
ซึ่งมีฤทธิ์ร้ายแรงถึงขนาดละลายเกราะของยาน GUTS กริฟฟอน ได้เลยทีเดียว
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : มนุษย์ต่างมิติ YAPOOL
ความสูง : ไม่ปรากฏแน่ชัด
น้ำหนัก : ไม่ปรากฏแน่ชัด
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างมิติปริศนาที่ถือกำเนิดจากความมืด
ซึ่งเรียกได้ว่ามันคือ "ปีศาจผู้เป็นอมตะ"
ที่คอยบงการ ยอดอสูรมดยักษ์ อะริบุนตะ อยู่เบื้องหลัง
ความเคียดแค้นชิงชังของมันที่มีต่อพวกที่อยู่ข้างเดียวกับแสงสว่างที่น่ารังเกียจนั้น
มีมากมายเหลือคณานับ มันจึงคอยวางกับดักที่สุดแสนจะชั่วช้าเอาไว้
ตอนที่ 19 "เหล่านักรบบนผิวดวงจันทร์"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย SOLDIER ZOMBORG
ความสูง : 1.9 เมตร
น้ำหนัก : 110 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยที่เคยประจำการอยู่ในฐานทัพ TPU บนดวงจันทร์
ซึ่ง มูลนิธิชิซึมะ และ TPU ได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อใช้เป็นฐานทัพแนวหน้าในการบุกเบิอวกาศ
หลังจากฐานทัพนี้สิ้นสุดภารกิจลง พวกทหารซอมบอร์กเองก็หยุดทำงานไปด้วยเช่นกัน
แต่ขณะที่ คานาตะ กับ เคนโกะ ได้ลอบเข้าไปในฐานทัพบนดวงจันทร์ซึ่งกลายเป็นรังของสเฟียร์
พวกมันก็กลับมาทำงานอีกครั้ง แล้วบุกเข้าจู่โจม คานาตะ กับ เคนโกะ เป็นจำนวนหลายนาย
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : SPHERE JUDGEMENTER GALACTRON MKⅡ
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 7 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : หนึ่งในเครื่องจักรที่กลายเป็นซากปรักหักพัง
ที่ สเฟียร์ ได้รวบรวมมาไว้รอบๆฐานทัพ TPU บนดวงจันทร์ เพื่อใช้เป็นภาชนะของมัน
จากนั้นฝูง สเฟียร์โซลเยอร์ ก็เข้าเกาะกุมมัน จนกลับมาทำงานได้อีกครั้ง
และออกมาขัดขวาง อุลตร้าแมนเดคเกอร์ กับ อุลตร้าแมนทริกเกอร์ เอาไว้
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของมันจะดูไม่แตกต่างจากเดิมด้วยอิทธิพลจากสเฟียร์
แต่มันมีความสามารถที่หลากหลายกว่าแต่ก่อนทั้งในด้านการรุกและรับ
ตอนที่ 20 "ท่านราก้่อน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ RAGON ( ร่างเด็ก )
ความสูง : 1.5 เมตร
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : ราก้อน ร่างเด็กที่มีคนเคยพบเห็นเมื่อ 70 ปีก่อน
จากการที่มันไปปรากฏตัวต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่ชื่อ "นางิ"
ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่ว่ากันว่าที่นั่นเป็นทางผ่านของ "ท่านราก้อน"
เพื่อเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ และได้มอบหอยเชอรี่ให้
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ RAGON
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ ที่ปรากฏตัวออกมาจาก "ประตูศิลาแห่งนักประดาน้ำหญิง"
ซึ่งเป็นการนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางเรียงกันเป็นโครงสร้าง
ผิวหนังตามลำตัวของมันจะเต็มไปด้วยเมือก
จึงไม่สามารถที่จะจับตัวมันได้ เพราะจะลื่นหลุดมือไปหมด
แถมมันยังสามารถพ่นลำแสงสีขาวออกมาจากปาก
ซึ่งถ้าโดนเข้าไปก็จะเกิดละอองน้ำ และจะทำให้พื้นดินยุบตัวจมลงไป
ตอนที่ 21 "สิ่งที่ต้องแลกกับความเจริญ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรรวมร่าง S พลาสม่า SPHEREGEOMOS
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 7 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : อสูรรวมร่างสเฟียร์ ซึ่งคืนชีพขึ้นมาด้วยการยืดหนวดจำนวนนับไม่ถ้วน
ออกมาจากอาคารวิจัย เตาปฏิกรณ์ S พลาสม่า ที่ช่วยสร้างพลังงานอันมหาศาล
โดยการนำซากสเฟียร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์
จากนั้นมันก็ดูดกลืนอาคาร , เครื่องจักรที่อยู่บริเวณโดยรอบเข้าไป
แล้วเรียก สเฟียร์ซอรัส จากอวกาศในอนาคตให้มาร่วมต่อสู้ด้วย
ผ่าน เวิร์มโฮล ที่มันสร้างขึ้นมาด้วยการเปลี่ยนแปลงมิติเวลา
ตอนที่ 22 "ชาวบัซโด้ผู้ล่มสลาย"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดมีปีก CHANDRA
ความสูง : 36 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตวประหลาดมีปีกที่ อกัมส์ ชาวดาวบัซโด้ ได้ส่งมันมา
โดยจะใช้ลมกรรโชกจากการกระพือปีกทั้งสองข้าง
และ คมเขี้ยว กับ กงเล็บอันแหลมคม เป็นอาวุธ
อกัมส์ ได้ฝังระบบควบคุมคลื่นสมองเอาไว้ที่สมองของมัน
แล้วใช้อุปกรณ์ควบคุมที่มีลักษณะเหมือนสร้อยคอ คอยบงการมันอยู่
ตอนที่ 23 "ท้องฟ้าแห่งความสิ้นหวัง"
ตอนที่ 24 "ปลายทางของความฝัน"
ตอนที่ 25 "แสงจากอีกฝากฝั่งหนึ่ง ( คานาตะ )"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : SPHERE GOMORA , SPHERE REDKING , SPHERE NEOMEGAS
( Profile ของสัตว์ประหลาด 3 ตัวนี้จะอยู่ในตอนที่ 3 , 9 และ 12 )
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏ : อสูรสเฟียร์ที่แข็งแกร่งที่สุด MOTHER SPHERE SAURUS
ความสูง : 88 เมตร
น้ำหนัก : 8 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สิ่งมีชีวิตปริศนาที่เคลื่อนไหวอยู่ใน เวิร์มโฮล ที่ปรากฏอยู่ใกล้โลก
มันรู้ว่า อุลตร้าแมนทริกเกอร์ จับสัมผัสถึงตัวตนของมันได้
จึงได้ปรากฏตัวออกมาจาก เวิร์มโฮล แล้วส่งเสียงคำราม
ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีอย่างดุเดือด
ตอนประมวลเหตุการณ์พิเศษ 3 "ลุกขึ้นสิ เดคเกอร์"
**********************************************************
**********************************************************
อุลตร้าแมนเดคเกอร์
ภาคบทส่งท้าย สู่อีกฝากหนึ่งของการเดินทาง...
ปราการอันน่าสะพรึงกลัวที่สร้างรอยบิดเบี้ยวบนอากาศ
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของคานาตะ และ จุดเริ่มต้นของ ดีนัส
อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ภาคหนังโรงที่จะกล่าวถึงเรื่องราวหลังจากตอนจบในทีวีซีรีส์ ซึ่งเหล่าสมาชิกทีม GUTS - SELECT ยังคงต้องต่อสู้เสี่ยงตายกับภัยคุกคามครั้งใหม่จากกองทัพมนุษย์ต่างดาวที่บุกจู่โจมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมทั้ง "โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์" ที่มาพร้อมกับปราการทมิฬ "โซลเกาส์" ผู้สร้างรอยบิดเบี้ยวเหนือท้องฟ้าบนโลก
นอกจากนี้ยังมี "ดีนัส" หญิงสาวลึกลับผู้มีพลังอันน่าอัศจรรย์ และรู้ถึงตัวตนของ "กิเบลส์" ปรากฎตัวออกมาให้ความร่วมมือกับทีม GUTS - SELECT เพื่อยับยั้งแผนการอันชั่วร้าย ซึ่งรับบทโดย คุณนากามูระ คายาโนะ อดีตสมาชิกวง AKB48 มาช่วยสร้างสีสันให้กับภาค "บทส่งท้าย" นี้
การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายแบบทุ่มสุดกำลังของ คานาตะ , ดีนัส และทีม GUTS - SELECT โดยมีความอยู่รอดของโลกและอวกาศเป็นเดิมพัน บัดนี้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว !
"อุลตร้าแมนเดคเกอร์ ภาคบทส่งท้าย สู่อีกฝากหนึ่งของการเดินทาง..." มีกำหนดการสตรีมมิ่งทาง Tsuburaya Imagination และฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศญี่ปุ่นพร้อมกันในวันที่ 23 ก.พ. 2023
ชาวดาวลาวี ดีนัส : ชาวดาวลาวี ที่มีพลังมหัศจรรย์ในการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆด้วยโทรจิต
แล้วสามารถสร้าง อุลตร้าดิเมนชั่นการ์ด ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆที่สื่อใจตรงกันกับเธอ
เพื่อนำมาใช้เป็นพลังได้
เธอเคยใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขกับครอบครัวสัตว์ประหลาด ซานเดรียส บนดาวลาวี
แต่อยู่มาวันหนึ่ง ดาวลาวี ก็ถูก มนุษย์ดาวโกโดล่า และ มนุษย์ดาวแม็กม่า
ซึ่งถูกใครบางคนเพิ่มพลังให้กับพวกมัน เข้ามาบุกจู่โจม
จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บเจียนตาย
แต่ก็ได้ อุลตร้าแมนไดน่า มาช่วยเอาไว้
โดยได้มอบพลังแห่งแสงให้กับเธอเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยรักษาบาดแผลให้เธอ
ทว่า, อุลตร้าแมนไดน่า เองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า
แสงที่เขามอบให้เธอไปนั้นจะกลายเป็น อุลตร้า D แฟลชเชอร์
จนทำให้เธอสามารถแปลงกายเป็น อุลตร้าแมนดีนัส ได้
หลังจากที่เธอสามารถปกป้องดาวบ้านเกิดพร้อมกับ อุลตร้าแมนไดน่า ได้แล้ว
เธอจึงได้เดินทางท่องอวกาศ และได้พูดคุยกับเหล่าสัตว์ประหลาดมากมาย
จนรู้ความจริงว่า โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ คือ ผู้ชักใยพวก มนุษย์ดาวโกโดล่า
ที่มาบุกจู่โจมดาวลาวี อยู่เบื้องหลัง
และรู้ว่าเป้าหมายต่อไปของ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ คือ ดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า "โลก"
เธอจึงได้เดินทางมาที่โลกเพื่อหยุดยั้งแผนการอันชั่วร้ายของมัน
( ผู้รับบท : นากามูระ คายาโนะ )
ULRAMAN DYNUS
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ร่างแปลงกายของ "ดีนัส" ชาวดาวลาวี
ซึ่งได้ "อุลตร้า D แฟลชเชอร์" อุปกรณ์แปลงร่างที่ลาจาก คานาตะ ไป
มาไว้ในครอบครอง ด้วยสาเหตุบางอย่าง
เธอจะใช้ ดีนัสการ์ด ในการแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนดีนัส
เนื่องจากเดิมที ชาวดาวลาวี ไม่ถนัดในการต่อสู้
ดังนั้นถึงแม้ว่าจะแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนดีนัส แล้วก็ตาม
แต่การต่อสู้ในระยะประชิดด้วยการเตะต่อยนั้นจะไม่ค่อยรุนแรงสักเท่าไหร่นัก
แต่เธอจะถนัดปล่อยท่าโจมตีต่างๆมากมายโดยใช้การ์ดสัตว์ประหลาด
ซึ่งแต่ละท่านั้นจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสัตว์ประหลาดตนนั้นๆ
เพื่อชดเชยจุดอ่อนในด้านพละกำลัง
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏในหนังโรง Ultraman Decker Finale : Journey to Beyond
ชาวดาวโซโซกิก้า PROFESSOR GIBELS
ความสูง : 2.5 เมตร
น้ำหนัก : 250 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : นักวิทยาศาสตร์บ้าคลั่งผู้ชั่วร้ายจาก ดาวโซโซกิก้า ที่หมายจะปกครองจักรวาลทั้งมวล
เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในเมือง คุริโอซิตี้ ก็เป็นผลพวงจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการรุกราน
ที่มันสร้างขึ้นมานั่นเอง
จากคำพูดจอง ดีนัส ที่ว่า "มันเป็นการทดลองเพื่อแสวงหาวิธีการรุกราน
ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด"
นั่นแสดงว่า นี่เป็นเพียงการวิจัยรูปแบบการบุกรุกที่งดงามที่สุดเพียงวิธีนึงเท่านั้น
ไม่ใช่การทำลายล้างดาวเคราะห์ให้พินาศ
นอกจากมันจะเป็นผู้บงการกองกำลังมนุษย์ต่างดาวลูกผสมแล้ว
มันยังมียาน โซลเกาส์ ป้อมปราการทดลอง เป็นกำลังรบสำคัญของมัน
ยานป้อมปราการ ZORGAUS
ยานอวกาศขนาดใหญ่ของ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ ซึ่งถูกเรียกว่า ยานป้อมปราการ
และสามารถยิง ลำแสงเลเซอร์ ออกมาจากป้อมปืนทั้ง 2 ข้าง ได้
อสูรจักรพรรดิทางช้างเผือก GIGALOGEYSER
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ร่างสัตว์ประหลาดของ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ ที่ขยายร่างของตนให้ใหญ่ขึ้น
โดยจะมีลำคอที่เรียวยาว แต่ส่วนหัวเล็ก
มีใบหน้าที่ดูดุร้าย และมีฟันเขี้ยวอันแหลมคมเรียงติดๆกัน
มันสามารถปล่อยลำแสงออกมาจากปาก
แล้วยิง ลำแสงไซเบอร์ ออกมาจากทั่วร่างได้รอบทิศทาง
แถมปลายหางของมันก็ยังมีความแหลมคมเหมือนดาบ
จึงสามารถตวัดฟาดฟันศัตรูและตึกรามบ้านช่องใหขาดสะบั้นได้
ถึงแม้จะอยู่ในร่างนี้ แต่ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ ก็สามารถใช้กระแสจิต
สั่งป้อมปราการ โซลเกาส์ ให้โจมตีศัตรูประสานงานกันได้
อสูรป้อมปราการทางช้างเผือก ZORGIGALOGEYSER
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 3 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดรวมร่างที่เกิดจากการรวมกันระหว่าง กิกาโลไกเซอร์ กับ ป้อมปราการ โซลเกาส์
ซึ่งถือเป็นไพ่ตายของ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์
โดยยาน โซลเกาส์ จะแยกลำออกเป็น 3 ส่วน
แล้วไปประกอบที่ส่วนหัวและไหล่ทั้งสองข้างของ กิกาโลไกเซอร์
มันสามารถยิง ลำแสงปลิดชีพ และ ลำแสงกระจาย
ออกมาจาก โซลกิกาโลแคนนอน ที่อยู่ตรงไหล่ทั้งสองข้างได้
อีกทั้งยังสามารถกางบาเรียอันทรงพลังที่สามารถป้องกัน
นีโอแม็กซิเมอร์ เนิร์ส แคนนอน จาก ยานเนิร์สเดซเซย์
หรือแม้แต่ TR เมก้าบัสเตอร์ ของ เทราเฟเซอร์
และ กระสุนเพลิงบรรลัยกัลป์ ของ เซ็ตต้อน ที่ อุลตร้าแมนดีนัส ปล่อยออกมาได้
แถมยังสามารถดูดกลืนพลังงานที่โจมตีเข้ามา แล้วสะท้อนกลับไปเป็นลำแสงแบบติดตาม
ซึ่งมีอานุภาพที่ร้ายกาจถึงขนาดล้ม เทราเฟเซอร์ ได้เพียงนัดเดียว
นอกจากนี้ โปรเฟสเซอร์ กิเบลส์ ยังสามารถแยกการรวมร่างระหว่าง กิกาโลไกเซอร์
กับ ยานโซลเกาส์ ออกจากกัน เพื่อรุมโจมตีศัตรูแบบประสานงานกันได้ทุกเมื่อ
Credit : https://m-78.jp/decker/
Authorized & Translated by : Grandking